มีหลายวิธีหลายกลยุทธ์ที่คุณสามารถนำมาใช้ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์สินค้าออกไปในวงกว้างได้ เรามาเริ่มดูกันไปทีละข้อเลยนะครับ
1. ให้ influencer ช่วยนำเสนอแบรนด์ของคุณ
ความเข้าใจผิดประการสำคัญที่เราเจอบ่อยๆ คิดว่า แค่ให้ Influencer ถ่ายภาพคู่กันกับสินค้าและโพสต์ผ่านช่องทางต่างๆก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
หลายคนที่เคยลองทำแบบนั้นและค้นพบว่า นั่นไม่ได้ทำให้เกิดยอดขายที่ดีขึ้นมาได้เลย สาเหตุเป็นเพราะเขาใช้ influencer ผิดวิธี
กลยุทธ์การโปรโมทแบรนด์ผ่าน influencer ที่ดีนั้น คุณจะต้องสามารถให้พวกเขา “ส่งผ่าน” คุณค่า หรือค่านิยมที่แบรนด์ยึดถือ
ซึ่งคุณจะต้องสรุปค่านิยมเหล่านั้นออกมาเป็น Key Message ของแบรนด์ เพราะ influencer เป็นได้แค่กระบอกเสียงแต่เสียงนั้นจะต้องเป็นของคุณ
คุณกำลังยื่น Message ของแบรนด์ใส่ปากอินเฟรนเซอร์เพื่อให้พวกเขานำไปสื่อสาร ต่อไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก็คือผู้ที่ติดตาม influemcer เหล่านั้นอยู่นั่นเอง
นั่นหมายความว่าคุณจะต้องเลือก influencer ให้ถูกคนด้วย ให้มั่นใจว่าคนที่คุณเลือกนั้นมีผู้ติดตามเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณจริงๆ อย่าดูแต่ยอดผู้ติดตามเป็นหลักเพราะนั่นจะนำมาซึ่งความล้มเหลว คุณไม่ต้องการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับน้องหมา ในกลุ่มผู้ที่สนใจแต่แมว
การใช้ influencer เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมและสามารถทำให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ ในยุคนี้เราคงไม่สามารถมองข้ามการสร้าง Brand awareness ผ่านการใช้ influencer ได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นที่ผู้ติดตามเหล่านั้นมีต่อ influencer ก็สามารถถ่ายโอนมาเป็นของคุณ เมื่อเขากล่าวถึงสินค้าของคุณในทางบวก
และความเชื่อมั่นหรือ trust นี่เองที่เป็นสิ่งสำคัญในการปิดการขาย เพราะไม่มีใครซื้อของจากคนที่เขาไม่ได้ไว้ใจ
หากวางแผนให้ดีกว่านี้จะทำให้คุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้คนเห็นเป็นล้านอย่างรวดเร็ว และได้ยอดขายอย่างมากมายตามมานั่นเอง
การที่ อินเฟรนเซอร์พูดถึงสินค้าของคุณบน Channel ของพวกเขา ยังช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณแพร่กระจายไปเหมือนไวรัส (Viral Marketing) เพราะถ้าหาก Message ของคุณดีพอ มันก็จะแพร่กระจายไปผ่านการกดแชร์ กดคอมเม้นและ like บนโลกโซเชียล
Ikonick เป็นตัวอย่างที่ดี บริษัทนี้ได้ใช้ influencer ในการสร้าง Brand Awareness หากคุณยังไม่รู้จัก Ikonick ผมขออธิบายง่ายๆว่าบริษัทนี้ขายศิลปะบนผืนผ้าใบ (Canvas Art) สำหรับการตกแต่งบ้าน และสำนักงาน
พวกเขาส่งสินค้าที่เป็นชิ้นงานศิลปะไปให้ influencer เพื่อโพสต์และแชร์รูปภาพงานศิลปะออกไปยังโลกโซเชียล
ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี Ikonick ได้รับการพูดถึงออกไปในวงกว้าง และนำมาซึ่งยอดขายมากมายให้แก่บริษัท
” ความสัมพันธ์ของเรากับ influencet เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจเรา” กล่าวโดย Mark Mastrandrea เขาคือผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Ikonick และเขายังกล่าวอีกว่า ” ความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันนี้ ได้สร้างชุมชนกลุ่มคนที่สนใจสินค้าของเรา และชุมชนนี่เองทำให้แบรนด์ของเราเติบโต”
Ikonick ใช้ influencer ทุกประเภท ตั้งแต่กลุ่มช่างภาพที่ชอบโพสผลงานภาพถ่ายสวยๆของตัวเองลงบน Instagram ไปจนถึงบรรดาเหล่าเซเลบ หรือแม้แต่กลุ่มนักธุรกิจคนสำคัญหลายคน
ธุรกิจของพวกเขาเติบโตอย่างมากมายจริงๆ เพราะการเห็นความสำคัญของ influencer และการนำมาใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการเติบโตให้กับบริษัท และช่วยให้การทำงานของทีมขายง่ายขึ้น
นอกจากคุณจะทำงานร่วมกันกับ influencer บนโลกโซเชียลแล้ว คุณยังสามารถเป็นสปอนเซอร์ให้กับพวกเขาเมื่อมีงาน Event ต่างๆที่พวกเขาจัดได้อีกด้วย เพราะชื่อของคุณจะถูกนำไปออกสื่อต่างๆพร้อมกันกับ เนื้อหาของงานเหล่านั้น
2. การออกแบบ สร้างประสบการร่วม (Experience Design)
การแกะกล่องของขวัญเป็นประสบการณ์ที่สุดพิเศษ ที่จริงมี Youtube ช่องหนึ่งชื่อว่า “Unbox Therapy” ซึ่งมีผู้ติดตามหลายล้านคน
ช่องนี้จะเน้นการแกะกล่อง อุปกรณ์พวก Gadget หรือ โทรศัพท์มือถือ วิธีการนำเสนอของทางช่องนั้นน่าสนใจมาก ผมมีความรู้สึกร่วมเสมือนว่าได้ซื้อหรือมีคนให้สินค้าเหล่านั้นแกผมจริงๆ
ทุกประสบการณ์ในการแกะกล่องเหมือนเรานั่งอยู่ตรงนั้นได้รับรู้ความรู้สึกตื่นเต้น ไม่ต่างจากเด็กน้อย พึ่งได้ของขวัญ
ทุกครั้งที่เห็นการแกะกล่องที่ใกล้ชิด แจ้งกลับว่าผมได้นั่งอยู่ตรงนั้นได้เล่นสิ่งของเหล่านั้นด้วยตัวเองจริงๆ ช่อง YouTube นี้ ก็ประสบความสำเร็จในการทำให้ผมรู้สึกมีประสบการณ์ร่วมที่พิเศษ
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ช่อง YouTube ช่องนี้จะมีผู้ติดตามหลายล้านคน และยอดวิวโดยปกติของช่องนี้เราจะเห็นหลายๆคลิปของเขาที่มียอดหลักล้านวิวขึ้นไปจนกลายเป็นเรื่องปกติ
สิ่งที่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า ผู้คนชอบที่จะมีประสบการณ์ร่วมโดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ในการแกะกล่องของขวัญเหล่านั้น แม้จะเป็นประสบการณ์ที่ชมผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม
การสร้างแบรนด์ที่ดีจะต้องสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดี หรือแปลกใหม่ แตกต่างจากคนอื่น เหมือนเป็นการสร้างตัวตนของคุณเอง
การสร้างประสบการณ์ใหม่ๆนั้นเราเรียกว่า Expericence Design ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรู้สึกบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณอย่างลึกซึ้ง
3. ใส่ใจทุกองค์ประกอบของสินค้า
เมื่อกี้เราได้พูดถึงช่อง Youtube ชื่อ “Unbox Therapy” ดังนั้นผมจะขอพูดต่อไปเลยในเรื่องของบรรจุภัณฑ์สินค้า
เพราะในการออกแบบสร้างแบรนด์ นอกจากคนจะต้องทำการบ้านในการออกแบบสินค้ามาให้ดี โดดเด่น และน่าตื่นเต้นแล้ว
กล่องหรือบรรจุภัณฑ์เพื่อเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจตลาด ได้ไม่แพ้กัน เพราะคุณกำลังขายประสบการณ์ ไม่ได้แค่ขายสินค้าอย่างเดียว
ลองถามตัวเองดูว่ากล่องหรือบรรจุภัณฑ์ของคุณสวยงาม น่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ลูกค้าได้เอามือสัมผัส แกะ แล้วเปิดมันออกหรือไม่
หาคำตอบคือไม่ คงถึงเวลาแล้วที่คุณจะกลับมาวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆของการออกแบบแบรนด์สินค้าของคุณ
ในทุกๆองค์ประกอบของแบรนด์จะต้องสามารถสร้างความ “ว้าว” (Wow Effect ) ให้แก่ลูกค้าทุกคนที่พบเห็นหรือสัมผัสได้ 5 กล่องบรรจุภัณฑ์ของคุณน่าเบื่อเป็นแค่กล่องกระดาษแข็งสีน้ำตาลธรรมดา สินค้าที่อยู่ข้างในก็จะได้รับผลกระทบส่งผ่านความรู้สึกน่าเบื่อเหล่านั้น เข้ามาในตัวสินค้าด้วย
ลองมององค์ประกอบทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวแบรนด์สินค้าของคุณ มีอะไรบ้างที่สามารถปรับปรุง เพิ่มเติม และแก้ไขให้เกิดประสบการณ์แห่งความ “ว้าว” นี้ได้
บางบริษัทถึงกับทุ่มเทงบมากมายมหาศาลไปที่การออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์การทำหารตลาดผ่าน Packaging Design จะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าของคุณขึ้นอย่างมากมายมหาศาล
คุณเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นและสังเกตกล่องขนมที่นั่นไหมครับ บางครั้งตัวกล่องขนมต่างๆในญี่ปุ่นยังมีราคาแพงมากกว่ามูลค่าการผลิตตัวขนมเองซะอีก
คนญี่ปุ่นเก่งมากๆในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ดูสนุกสนานน่าตื่นเต้น มีการเล่นลายเส้นลูกเล่นการเปิดกล่อง และสีสันที่งดงาม
กล่องหรือบรรจุภัณฑ์เป็นเพียง 1 องค์ประกอบที่คุณควรสำรวจยังมีสิ่งสำคัญในการออกแบบต่างๆเหล่านี้ที่คนอาจจะมองข้ามไป
หักคุณให้ความสำคัญกับทุกๆการออกแบบ เพื่อมุ่งเน้นไปยังการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้า แบรนด์สินค้าของคุณจะเป็นที่พูดถึงอย่างแน่นอน และการถูกพูดถึงในวงกว้างจนเป็นที่รู้จัก ก็เป็นความสำเร็จของการทำกลยุทธ์ Brand Awareness
3. วิเคราะห์ และค้นคว้าข้อมูล Keywords ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจของคุณ
น่าแปลกใจอย่างยิ่งที่ธุรกิจ sme มากมายไม่เข้าใจ หรือไม่แม้แต่จะสนใจการทำ SEO หรือที่เรียกว่า Search Engine Optimization แต่กลับเน้นที่ Facebook อย่างเดียวในการยิงแอด
ความล้มเหลวจากการไม่สามารถปิดการขายได้ตามที่ต้องการจึงเกิดขึ้น
SEO หรือการทำการตลาดผ่าน Search Engine อย่าง Google ไม่ว่าจะเป็นการปั้นอันดับ แบบธรรมชาติ (Organic) หรือเป็นการลงโฆษณาผ่าน Google Adwords ก็จะต้องมองที่การทำ Keyword Research เป็นสำคัญ
Search Engine ช่วยคุณในการคัดกรองลูกค้าที่มีปัญหาชัดเจน พวกเขาค้นหาข้อมูลต่างๆ เพื่อต้องการวิธีแก้ปัญหา ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ หรือกำลังค้นหาข้อมูลสินค้าเพื่อเปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจในการสั่งซื้อ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใจกระบวนการทำงานของ Search Engine และน้อยคนนักที่เข้าใจการเลือกและการวิเคราะห์ Keyword ที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งนำไปสู่ยอดขาย หรือเกิด Brand Awareness ได้จริงๆ
คุณรู้หรือไม่ว่า Keyword Research นอกจากเกี่ยวข้องกับ Google แล้ว อย่ามีส่วนสำคัญมากอย่างยิ่งในการทำ Social Media Marketing
การยิงแอดบน Facebook อย่างเดียว จึงไม่ใช่คำตอบ ยกตัวอย่างเช่นคนที่สนใจกีฬาฟุตบอล ไม่ได้หมายความว่าเขากำลังสนใจที่จะเลือกซื้อรองเท้าฟุตบอลสักครู่นึงเพราะในอาทิตย์หน้ามีลงสนามเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ
หากคุณเข้าใจ work Flow ของการทำงานร่วมกัน เช่น Google ละ Facebook คุณจะยิ่งสามารถเพิ่มยอดขาย เพิ่มความสนใจ ในตัวแบรนด์ของคุณ ได้อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
– ลูกค้ามีปัญหา
– ลูกค้า Search หาวิธีแก้ปัญหาหรือสินค้า
– พบเว็บไซต์ของคุณ
– ลูกค้าเข้ามาอ่าน Content
– ลูกค้าถูก Track ด้วย Pixel/Cookie
– คุณสามารถติดตามปิดการขายด้วย Retargeting Ads
– เริ่มต้นยิง retargeting Ads ไปยัง Social Media โดยการใช้ Content ที่หลากหลายตรงตามระดับความสนใจตื้นลึกของลูกค้าเป้าหมาย
– นำ user list ที่ได้จาก pixel tracking มาทำ look alike audience แล้ว แยกกลุ่มยิง Ad เพื่อทดสอบผลลัพธิ์ ต่อไป
จาก workflow ข้างบน คุณจะเห็นว่ากลไกการทำงานของมันสามารถสร้างธุรกิจของคุณให้เติบโต เพราะคุณจะเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงประเด็น ตรงกลุ่มที่มีความต้องการมากยิ่งขึ้น
และหากคุณสามารถทำได้ดังที่เราได้กล่าวไปทั้งหมด ความสำเร็จในการสร้าง Brand Awareness เพื่อให้เป็นที่รู้จัก และสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างงดงาม ก็จะเป็นของคุณ
เปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็น Brand Ambassador ของคุณ
Phrase 4: Advocacy เปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็น Brand Ambassador ของคุณ Advocacy คืออะไร? ถึงตอนนี้คุณได้ใช้ Content ต่าง ๆ เป็นกลยุทธฺืหลักในการสื่อสาร กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งลูกค้าได้ซื้อสินค้าแล้ว แต่กระบวนการทางการตลาดนั้นยังไม่สิ้นสุด เพราะคุณยังมีภาระกิจสำคัญ...
วิธีการสร้าง Brand Message
Brand Message คือข้อความสำคัญบางอย่าง ที่สะท้อนถึงตัวตนของบริษัทของคุณ สินค้าของคุณ และแบรนด์ของคุณ Message ของแบรนด์ที่ดีจะต้อง เชื่อมโยงความรู้สึก และความสัมพันธ์ ให้เกิดผลกระทบไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ Message ของแบรนด์จะสะท้อนไปยังองค์ประกอบต่างๆของการโฆษณา...
ช่วยร้านรอบข้าง เพื่อร้านตัวเอง
Photo Source: freepik.com ชายคนหนึ่งไปซื้อตึกเพื่อทำร้านอาหาร ลงทุนตกแต่งไปมากมาย แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าทำอะไรตรงนั้นมีปัญหามาก และขายไม่ค่อยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาคาดหวังยอดขายเพราะคนแถวนั้นจะเลิกงานและมีโอกาสจะได้ลูกค้านั่งดื่ม...
